รักษาสิวที่หลัง ทำอย่างไรบ้าง?

สิวที่หลัง มักเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอจนทำให้เกิดเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ จากรูขุมขนอุดตันด้วยแบคทีเรีย ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรืออาจเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้า 

ชนิดของสิวที่หลัง

  • สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว
  • สิวหัวดำ เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ
  • สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส อาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปดึงหรือบีบ
  • สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและจะมีอาการแดงบริเวณรอบ ๆ หัวสิว ไม่ควรดึงหรือบีบเพราะอาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้
  • สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บหรือปวด เมื่อเอามือไปสัมผัส
  • สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น สิวหัวช้างมักเป็นสิวระดับรุนแรง

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง

  • เหงื่อ หลังจากที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ จากข้างนอกมาพอถึงบ้านเราควรอาบน้ำทันทีไม่ควรให้เหงื่อแห้งไปกับเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ หากเราทิ้งให้เหงื่อที่เปียกโชกแห้งไปกับเสื้อโดยที่เราไม่ได้ทำความสะอาดอาจจะทำให้เราเป็นสิวที่หลังได้
  • ที่นอนไม่สะอาด ความไม่สะอาดของเครื่องนอนสามารถทำให้เป็นสิวที่หลังได้ โดยปกติแล้วเราควรเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
  • การกินของทอดของมันเป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะผิวมันมากขึ้นจึงทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดสิวที่หลังได้ง่าย
  • การสวมเสื้อหนาหรือสวมเสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศทำให้เกิดเหงื่อและเสื้อมีความอับชื้นและเป็นบ่อเกิดของการสะสมของแบคทีเรียจึงทำให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน
  • ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยน สิวจึงมักปรากฏในช่วงวัยรุ่นเป็นเรื่องปกติหรือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงการมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
  • กรรมพันธุ์ ปัญหาเรื่องสิวที่เกิดขึ้นอาจส่งผ่านจากครอบครัวได้ เช่น หนึ่งในสมาชิกในครอบครัวเคยประสบกับสิวระดับรุนแรงมาก่อน
  • ยา ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า อาจทำให้เกิดสิวได้

การักษาสิวที่หลัง

ทำความสะอาดและหมั่นขัดผิวเป็นประจำ

หมั่นทำความสะอาดผิวให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงหมั่นขัดผิวเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจขัดด้วยใยบวบ หรือขัดด้วยเกลือขัดผิวก็ได้ การขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวและลบเลือนรอยสิวที่หลังได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดขัดผิวตอนที่เกิดสิวอักเสบ เพราะการขัดผิวในขณะที่เกิดสิวอักเสบจะยิ่งทำให้ระคายเคือง และสิวเห่อมากขึ้นได้

ทาทีทรีออยล์

ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยมีวิธีทำดังนี้ ใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะ ๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลงได้

พอกหลังด้วยดินสอพอง และมะนาว

นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส  และทำให้รอยสิวจางลงได้อีกด้วย

พอกหลังด้วยว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้โดยมีขั้นตอนและวิธีทำดังนี้ เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรือจะใช้เจลว่านหางจระเข้ก็ได้เพียงนำเจลว่านหางจระเข้มา 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และผงขมิ้นชัน ผสมเข้าด้วยกัน และนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้อีกด้วย

วิธีป้องกันสิวที่หลัง

  • ใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ หากเหงื่อออก เสื้อผ้าหลวม ๆ จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายและระบายเหงื่อ 
  • ไม่ให้ผมสัมผัสโดนหลัง เพราะร่างกายคนเรามักผลิตน้ำมันออกมาสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผมอยู่เสมอ หากปล่อยให้ผมสัมผัสกับหลังอยู่บ่อย ๆ สิ่งสกปรกหรือน้ำมันจากผมอาจก่อให้เกิดสิวที่หลังได้ 
  • ควรอาบน้ำให้เร็วที่สุดหลังจากเล่นกีฬาทุกครั้ง เพราะเหงื่อที่สะสมอยู่ในเสื้ออาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
  • ขัดผิวอย่างอ่อนโยน เช่นการใช้กรดซาลิซิลิกขัดผิว การขัดผิวช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวหนัง รวมไปถึงลดจำนวนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่มักไปอุดตันรูขุมขน 
  • การเลือกบริโภคเพื่อสุขภาพ เช่นการบริโภคธัญพืช ลีนโปรตีน ผักและผลไม้เยอะ ๆ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้