ลดริ้วรอยใต้ตา ทำอย่างไร?

ลดริ้วรอยใต้ตา

ปัญหาสำคัญของผู้หญิงอย่างเรา ๆ ด้วยวัยและอายุที่มากขึ้น คงหนีไม่พ้นปัญหา ริ้วรอยใต้ตา โดยริ้วรอยใต้ดวงตา เกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินถูกทำลายกรดไฮยาลูรอนิกในผิวลดลง และสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิวทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ จึงทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาโดยเฉพาะบริเวณ หางตา ใต้ตา รอบดวงตา  นอกจากสาเหตุด้านอายุแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การที่ผิวหนังถูกทำลายด้วยแสงแดด การสูบบุหรี่ การขยี้ตาทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างเรื้อรังของผิวหนังใต้ดวงตา และการพักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียด ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ทั้งนั้น 

วิธีดูแล ลดริ้วรอยใต้ตา

ลดริ้วรอยใต้ตา

ทาครีมบำรุงรอบใต้ตาเพื่อลดริ้วรอยใต้ตา

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ดวงตาได้เป็นอย่างดี โดยคุณควรเลือกใช้ครีมหรือเจลที่มีส่วนผสมของมอยเจอไรเซอร์เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยทำให้ริ้วรอยแลดูลดเลือนและดูกระชับได้เป็นหลัก และในตอนกลางวันก็ให้เลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วย ก็สามารถช่วยให้ริ้วรอยใต้ตาจางไปได้

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 

เช่นควบคุมการบริโภคอาหารรสเค็ม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ควรกินถั่วเหลืองเป็นประจำ เพราะในถั่วเหลืองมีสารที่ช่วยทำให้ผิวหนังแข็งแรงและลดรอยเหี่ยวของผิวได้ ควรกินปลาทะเลเป็นประจำเพราะสารโอเมก้า 3 ในปลาทะเล จะช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ลดความหย่อนคล้อยของผิวได้

การทำโบท็อกซ์ (Botox) 

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้รักษาริ้วรอยใต้ตาได้ โบท็อกซ์ เป็นสารโปรตีนสกัดชนิดหนึ่ง ที่ใช้ฉีดเข้าไปตรงบริเวณที่มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ใต้ตา หน้าผาก ซึ่งตัวยาจะยับยั้งปลายประสาทที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อตรงที่ฉีดโบท็อกซ์เข้าไป ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อดูเรียบเนียนเต่งตึง จนทำให้รู้สึกว่าหลังฉีดโบท็อกซ์ ริ้วรอยใต้ตาหายไป ด้  สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา จะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน  ส่วนจะต้องฉีดซ้ำการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา ประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง และจะค่อย ๆ ชัดขึ้นใน 1 เดือน  

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ลดริ้วรอยใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดคอลลาเจน “ Hyaluronic Acid : HA” เข้าไปในส่วนของใต้ตา เพื่อเติมเต็มรอยใต้ตา ให้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น ร่องลึกดูตื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบริเวณนี้มีเส้นเลือดค่อนข้างมาก ดังนั้นแพทย์จะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญมากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลชัดที่สุดในวันที่ 5 ของการฉีด และผลลัพธ์ของการฉีดสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสารฟิลเลอร์ที่ฉีด การดูแลหลังการฉีด ซึ่งผลที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย

การฉีดไขมันใต้ตา (Fat Transfer) 

การฉีดไขมันใต้ตาเพื่อลดริ้วรอยใต้ตา เป็นการฉีดเข้าไปเติมเต็มผิวที่เกิดปัญหา เปรียบเสมือนเป็นการย้ายเซลล์ที่มีชีวิตจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง คุณอาจเลือกใช้วิธีฉีดไขมันของตัวเองที่มีอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องหรือต้นขา โดยนำมาฉีดลงไปยังผิวหนังบริเวณใต้ตาเพื่อให้เซลล์ไขมันไปสัมผัสกับเนื้อเยื่อภายในมากที่สุด จึงทำให้ผิวกระชับเต่งตึงและเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

เลเซอร์ใต้ตา

ซึ่งจะเป็นเลเซอร์ในกลุ่มช่วยในการซ่อมแซมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ Laser Resurfacing เช่น CO2 laser, Erbium Laser, YSGG laser ฯลฯ  ที่ช่วยทำให้รอยย่นที่ลงลึกค่อย ๆ จางลงได้ จะเห็นผลได้ดีกับริ้วรอยที่ไม่ลึกมากนัก  โดยวิธีนี้แต่จะเห็นผลค่อนข้างช้าอย่างน้อยประมาณ 2-3 เดือน 

เทคนิคป้องกันริ้วรอย

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด สวมหมวก และแว่นตากันแดด เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด รวมทั้งควรทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปที่ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ทุกครั้งเมื่อต้องออกจากบ้านในเวลากลางวัน
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังรอยดวงตา เพราะผิวที่แห้งกร้านจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นตามมาได้
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ต่าง ๆ เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า วิตามินบางชนิดในอาหารอาจช่วยบำรุงสุขภาพผิวและชะลอการเสื่อมสภาพตามวัยได้
  • ไม่สูบบุหรี่ แม้จะสูบบุหรี่อย่างหนักหรือสูบมานานหลายปีก็สามารถฟื้นฟูให้ผิวหนังกลับมามีสุขภาพดีได้ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย