รักษาสิวอักเสบ มีกี่วิธี รักษาอย่างไรบ้าง?

สิวอักเสบ หนึ่งในสิวที่สร้างความหนักใจให้กับหนุ่ม ๆ สาว เพราะมักทิ้งรอยไว้ให้ดูต่างหน้าแม้จะรักษาหายแล้วก็ตาม สิวอักเสบคือสิวที่เกิดอาการอักเสบบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏอาการออกมาเป็นสิวลักษณะต่าง ๆ ที่มักก่อให้เกิดความเจ็บปวดหากสัมผัสโดนบริเวณนั้น 

สิวอักเสบมี 4 ชนิด ได้แก่

รักษาสิวอักเสบ

  • สิวชนิดตุ่มนูนแดง เป็นตุ่มแดงเจ็บ ขนาดไม่เกิน 0.5 ซม. ส่วนมากสิวชนิดนี้เป็นสิวอักเสบในระยะแรกที่เปลี่ยนมาจากสิวอุดตัน
  • สิวหัวหนอง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและปวด ข้างบนตุ่มมีหัวหนองสีเหลือง อาจเกิดจากสิวมีการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นแทรกซ้อน
  • สิวอักเสบแดงเป็นก้อนลึก เป็นตุ่มแดงเจ็บขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง โดยมีขนาดเกิน 0.5 ซม. มีอาการเจ็บปวดค่อนข้างมาก 
  • สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่งที่มีความรุนแรงมาก มักเป็นในวัยรุ่นผู้ชายที่มีผิวหน้ามันมาก บางรายมีประวัติคนในครอบครัวเป็นสิวหัวช้างด้วย 

สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ มีดังนี้

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม ในครอบครัวที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็มีความเสี่ยงในการเป็นสิวอักเสบมากกว่า และเวลาที่เกิดก็มักจะมีความรุนแรงมากกว่า เช่น เป็นในบริเวณที่กว้างกว่า เกิดเป็นสิวหัวช้างบ่อยกว่าคนทั่วไป
  • ปัจจัยจากฮอร์โมน ช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก็จะเริ่มเป็นสิว โดยฮอร์โมนเพศที่ทำให้เกิดสิวจะเป็นฮอร์โมนเพศชายโดยส่วนมากจะเริ่มขึ้นในช่วงอายุ 11 ปี และมักจะลดลงในช่วงอายุ 30 ปี  โดยผู้หญิงมักเป็นสิวในช่วงมีประจำเดือน หรืออาจเป็นมากในช่วงตั้งครรภ์ 
  • รับประทานอาหารที่มีความมันมาก อาหารที่มีส่วนประกอบของไกลซีมิค นมวัว มีการสำรวจและงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าอาหารเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวอักเสบ ส่วนอาหารที่ทานแล้วเป็นผลดีช่วยป้องกันและรักษาสิวอักเสบได้ คืออาหารที่มีวิตามินซี วิตามินบีสูง ได้แก่ พวกผักและผลไม้สด

การดูแลรักษาสิวอักเสบ มีดังนี้

ห้ามบีบสิวอักเสบ อย่างแรกเลยคือต้องดูให้ออกว่าตัวคุณเป็นสิวประเภทใด เพื่อจะได้หาทางรับมืออย่างเหมาะสมและถูกวิธีค่ะ

  • การฉีดสิวอักเสบ เป็นการฉีดโดยใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid) ซึ่งมีคุณสมบัติลดการอักเสบ โดยตัวยาที่นิยมนำมาใช้ในการฉีด คือ ยาไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) นิยมใช้ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนหรือมีงาน
  • การผลัดเซลล์ผิว ใช้กระบวนการทางเคมีมาช่วยในการรักษา เช่น การใช้กรดซาลิเซลิกเพื่อขัดลอกผิวชั้นนอก ลดการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงเมื่อใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ยกเว้นการรับประทานยาเรตินอยด์ แต่อาจจะทำให้ผิวแพ้ง่ายและระคายเคือง ผลข้างเคียงที่พบคือ อาจเกิดรอยแดง ผิวพุพอง หรือหลุดล่อนออกมา
  • การปรับฮอร์โมน เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพศในร่างกาย ในบางราย แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม หรือ ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-Androgen) ซึ่งจะลดผลกระทบที่เกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายมากระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวมากเกินไป จนทำให้เกิดการผลิตขนและน้ำมันมากจนเสี่ยงต่อการเกิดสิว ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรศึกษาวิธีการใช้ยา โดยสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรให้ดีก่อนใช้ยาเสมอ
  • น้ำแข็งประคบหัวสิว วิธีนี้เป็นการปฐมพยาบาลผิวเมื่อเริ่มเป็นจุดแดง ๆ และยังไม่ทันเป็นสิวอักเสบหัวหนอง ให้เราใช้น้ำแข็งมาประคบที่หัวสิวที่มีอาการบวมแดง ใช้ผ้าหรือทิชชูซับแล้วมาร์คหน้าด้วยโคลนมาร์คหน้าเย็นที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถลดอาการบวมแดงที่เกิดจากการอักเสบได้แล้ว
  • ผงพิเศษ+คลินดามัยซิน เป็นอีกสูตรหนึ่งที่สามารถรักษาสิวอักเสบได้ วิธีการทำ หลังจากคุณล้างหน้าแล้วให้ทาคลินดามัยซินลงบนหัวสิวอักเสบก่อน จากนั้นก็ตามด้วยผงพิเศษทิ้งไว้ทั้งคืน วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวแห้งและยุบตัวลงได้

วิธีป้องกันการเกิดสิวอักเสบ

  • เนื่องจากสิวอักเสบเกิดจากการอุดตันและเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบของสิวควรปฏิบัติตัวดังนี้
  • กำจัดสาเหตุของการเกิดสิวในบริเวณนั้น ๆ ออกไป เช่น ทำความสะอาดปลอกหมอน ที่นอน โทรศัพท์ แปรงแต่งหน้า
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
  • ล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาด เพื่อช่วยลดความอุดตันของผิวหนัง
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง และโอเมก้า 6 เช่น ปลาแมคเคอเรล แซลมอน เมล็ดแฟลก ถั่วเหลือง เป็นต้น สามารถช่วยลดการเกิดสิวอักเสบลงได้