รักษาสิวหลัง ทำได้อย่างไร?

ปัญหาสิวบริเวณแผ่นหลัง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่คอยรบกวนทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการแต่งตัวสำหรับสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ย่อมต้องการแต่งตัวโชว์แผ่นหลังอยู่บ้าง หากเป็นรอยสิว ทำให้เกิดความไม่มั่นใจอย่างแน่นอน การรักษาสิวหลัง จึงต้องศึกษาหาวิธีที่จะทำให้ปัญหาลดลงได้ เพื่อให้แผ่นหลังของคุณกลับมาเรียบเนียน ไร้รอยสิว แต่งตัวได้อย่างมั่นใจแน่นอน 

สิวที่หลังเกิดจากอะไร

ทุกคนมีต่อมน้ำมันภายใต้รูขุมขน ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) ออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและผิวหนัง หากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขนก็จะทำให้เกิดสิว ทำให้มีอาการแดง บวมหรือเป็นหนอง สิวอาจเกิดจากการที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น

  1. ฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยน สิวจึงมักปรากฏในช่วงวัยรุ่นเป็นเรื่องปกติหรือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงการมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
  2. กรรมพันธุ์ ปัญหาเรื่องสิวที่เกิดขึ้นอาจส่งผ่านจากครอบครัวได้ เช่น หนึ่งในสมาชิกในครอบครัวเคยประสบกับสิวระดับรุนแรงมาก่อน
  3. เหงื่อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ หากใส่เสื้อที่คับหรือพอดีตัวเกินไป เมื่อเหงื่อออกในเสื้อ อาจทำให้สิวรุนแรงขึ้นได้
  4. อาหาร มีผลวิจัยยืนยันว่าการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเช่นขนมปังขาวหรือมันฝรั่งทอดอาจทำให้เป็นสิวได้ เพราะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  5. ยา ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า อาจทำให้เกิดสิวได้
  6. ความเครียด นับเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดสิว แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรง

ชนิดของสิวที่หลัง

รักษาสิวหลัง

สิวที่หลังมีหลายชนิด เกิดขึ้นจากการอักเสบหรือการอุดตัน การสังเกตถึงชนิดของสิวสามารถช่วยให้ทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม สิวที่หลังมีชนิดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว
  2. สิวหัวดำ เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง หัวสิวสีดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ
  3. สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส อาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปดึงหรือบีบ
  4. สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและอาการแดงบริเวณรอบ ๆ หัวสิว ไม่ควรดึงหรือบีบเพราะอาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้
  5. สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บหรือปวด
  6. สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น สิวหัวช้างมักเป็นสิวระดับรุนแรง

บทความแนะนำ ตัด ไขมัน หน้า ท้อง จากเว็บไซต์ Rattinan.com

วิธีแก้สิวที่หลัง 

  1. ใช้โทนเนอร์

ใช้โทนเนอร์เช็ดที่บริเวณแผ่นหลัง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ โทนเนอร์จะช่วยเข้าไปฆ่าเชื้อและช่วยป้องกันการอักเสบของผิว โดยเราควรเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับผิวของเรา

  1. เลือกเสื้อผ้าหลวม ๆ

ใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ หรือเสื้อผ้าที่ไม่รัดมาก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเหงื่อออก เสื้อผ้าหลวม ๆ ก็จะช่วยระบายได้ง่ายกว่า ช่วยลดความอับชื้นที่อาจเกิดขึ้นบนผิวและยังลดการเสียดสีบนผิวได้ด้วย

  1. มัดผม

พยายามอย่าให้เส้นผมสัมผัสหลัง เพราะสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นผมรวมถึงน้ำมันจากเส้นผมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ดังนั้นจึงควรมัดผมหรือรวบผมเวลาที่มีเหงื่อ รวมถึงหมั่นสระผมให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้เวลาสระผม พยายามอย่าให้ครีมนวดหรือแชมพูไหลผ่านหลัง เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันได้

  1. อาบน้ำหลังออกกำลังกาย

ควรรีบอาบน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกาย เนื่องจากเหงื่อและสิ่งสกปรกอาจติดอยู่ตามแผ่นหลังและทำให้เกิดการอุดตันได้ รวมถึงควรขัดผิวอย่างเบามือ เพราะถึงแม้การขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตาลแล้วให้ออกไปและช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้เช่นกัน

  1. งดอาหารมัน อาหารทอด

อาหารมันและอาหารทอด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้  เพราะไขมันในอาหารเหล่านี้สามารถเป็นตัวเร่งให้รูขุมขนบนผิวหนังเกิดการอุดตันได้ง่าย และเป็นสาเหตุให้เกิดสิวขึ้นมาในที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะลดสิวที่หลังหายไป ควรหันไปกินอาหารสุขภาพอย่างผัก และผลไม้ให้มากขึ้น